การรักษาเอชไอวี

การรักษาจะช่วยลดปริมาณเชื้อไวรัสเอชไอวีในร่างกายคุณและช่วยไม่ไห้คุณป่วย

หากคุณรับการรักษาเอชไอวีอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้ปริมาณเชื้อไวรัสในเลือด (viral load หรือไวรัลโหลด) ลดลง และมีปริมาณเชื้อไวรัสในระดับที่ตรวจไม่พบ (undetectable viral load) ค่า viral load จะบอกปริมาณเชื้อไวรัสเอชไอวีที่อยู่ในเลือดของคุณ

หากปริมาณไวรัสสูง หมายความว่าคุณมีปริมาณเชื้อไวรัสเอชไอวีในร่างกายเป็นจำนวนมาก ระบบภูมิคุ้มกันของคุณกำลังถูกโจมตีและอ่อนแอลง และคุณอาจจะป่วยได้

ถ้าปริมาณไวรัสต่ำ หรือตรวจไม่พบ หมายความว่า ระบบภูมิคุ้มกันของคุณไม่ถูกโจมตี และคุณมีโอกาสที่จะป่วยหรือเป็นเอดส์น้อยลงมาก

ถึงแม้ว่า คุณจะมีปริมาณไวรัสที่ตรวจไม่พบ เชื้อเอชไอวีก็ยังคงอยู่ในร่างกายของคุณ แต่มีในปริมาณที่น้อยมาก ปริมาณไวรัสเอชไอวีในเลือดที่มีน้อยมากนี้ทำให้การตรวจหาไม่สามารถตรวจพบได้ เมื่อคุณมีปริมาณไวรัสในระดับที่ตรวจไม่พบ เชื้อเอชไอวีจะไม่ทำลายระบบภูมิคุ้มกันของคุณ คุณจะไม่ป่วย และไม่สามารถแพร่เชื้อเอชไอวีไปยังผู้อื่นได้

หากไม่ได้รับการรักษาเอชไอวีอาจทำให้เกิดโรคเอดส์ได้

เอดส์ AIDS ย่อมาจาก Acquired Immune Deficiency Syndrome โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง เมื่อเป็นโรคเอดส์ ระบบภูมิคุ้มกันจะถูกทำลายอย่างมาก ไม่สามารถต่อสู้กับการติดเชื้อต่าง ๆ ได้และทำให้ป่วยหนัก

ในออสเตรเลีย เกือบทุกคนที่ได้รับการรักษาเอชไอวี จะมีสุขภาพแข็งแรงและจะไม่พัฒนาไปเป็นโรคเอดส์ ด้วยเหตุนี้การเริ่มการรักษาโดยเร็วที่สุดจึงเป็นสิ่งสำคัญ

ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ การรักษาเอชไอวีนั้น ฟรี สำหรับทุกคน

บางคนได้รับผลข้างเคียงจากการรักษา แต่บางคนไม่ได้รับผลข้างเคียง ผลข้างเคียงในระยะสั้นของยาต้านเชื้อเอชไอวี อาจรวมถึงอาการท้องร่วง คลื่นไส้ ปวดท้อง และปวดศีรษะ ซึ่งอาการเหล่านี้มักจะหายไปหลังจากผ่านไปหนึ่งเดือน

คุณควรพูดคุยกับแพทย์ หากคุณได้รับผลข้างเคียงต่างๆ ซึ่งแพทย์สามารถช่วยคุณจัดการกับผลข้างเคียงนั้น

อย่าหยุดยา หรือ เปลี่ยนยา โดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์ของคุณ